
วันพฤหัสบดีที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552
งานใหม่ที่ SCG

วันศุกร์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2552
ArchiCAD12 : Apartment + VBE
งานนี้เป็น Apartment 6ชั้น ทำจาก ArchiCAD ล้วนๆ เลยนะครับ เอาไว้ลองดูนะครับ สำหรับคนที่คิดว่า ArchiCAD ทำไม่ได้ ก็เปลี่ยนใจได้แล้วนะครับ
รูปงานเบบต่างๆ ครับ
ดูให้เห็นๆ กันไปเลย
รูปงานแบบขยายบันได
การถอด BOQ ของ ArchiCAD เป็นแบบอัตโนมัติทั้งหมดและใช้งานง่ายและสะดวกกว่า Revit มากๆ ครับ เสียอย่างเดียว มันอัพเดตช้ามากๆ แต่ก็สามารถแก้ไขได้โดยการตั้งตัวกรองการถอดแบบ จะทำให้อัพเดตเร็วขึ้นมากครับ
ตบท้ายด้วย ไฮไลท์เด็ดครับ VBE หรือ Virtual Building Explorer ครับ สุดยอดของการ Presentation แห่งอนาคตเลยจริงๆ
นี่ตัวอย่าง VBE เอาไปเปิดเดินเล่นครับ
Download Apartment VBE
วันศุกร์ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2552
ArchiCAD 13 Release
ในที่สุด ArchiCAD 13 ก็ออกมาให้เราได้ทดลองเล่นกันแล้วนะครับ ออกมาถัดจากวันที่ Apple เริ่มจำหน่าย Mac OSX 10.6 Snow Leopard แค่วันเดียวเอง แถมยังออกมาบอกว่าจุดเด่นของตนเองเป็น 64bit เหมือนกันด้วย
โดยเมื่อดูจาก Feature เด่นที่นำเสนออยู่หน้าเวป ก็จะมีสี่เรื่องตามนี้ครับ
Next-Gen Teamwork
โดยเป็นการทำงานร่วมกันแบบ Realtime, มีการแบ่งขอบเขตการทำงานออกเป็นสีๆ หรือจะเป็นการส่งข้อความบอกกัน และเขียน Task ในแต่ละงวดงานให้ทุกๆคนทราบได้ด้วย รวมถึง BIM Server ที่จะช่วยให้การทำงานของ Teamwork 2.0 มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รวดเร็วขึ้น และปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
Productivity Improvements
- เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน เช่น การปรับองศาของแบบที่วาด เพื่อให้ทำงานสะดวกยิ่งขึ้น
- การใส่ Dimension ลงไปในรายการประกอบแบบประตู-หน้าต่าง
- การเซฟไฟล์ Library ลงโปรเจค
- การลิ้งค์ข้อมูลไปที่ไฟล์วิเคราะห์ทางวิศวกรรม
- การส่ง Export ไฟล์เป็น DWG ที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
- สามารถทำขอบพื้น,หลังคา เอียงได้
- Curtain Wall สามารถดัดแปลงได้เพิ่มมากขึ้น
64-bit
รองรับการทำงาน 64-bit บน windows (บนแมคเค้าบอกว่าเวอร์ชั่นถัดไป เซ็งครับ)
วันพฤหัสบดีที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2552
A/E/C Day 2009 by AppliCAD
ที่มา: AppliCAD : A/E/C Day 2009
น่าไปมากเลยนะครับเนี่ย ใครสนใจ ArchiCAD 13, Virtual Building Explorer, EcoDesigner, Artlantis ใครอยากเจอเทพในเวปก็งานนี้เลย ส่วนผมคงไปตอนเย็นๆ ครับ
วันจันทร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2552
Autodesk Dragonfly
Autodesk Labs: Project Dragonfly
ก่อนอื่นเลยครับ ต้องบอกก่อนว่าเจ้า Dragonfly เนี่ยเป็น web application ที่สามารถเปิดได้บน web browser ทั่วไปเลยครับ (ทดสอบแล้วบน IE,FireFox,Safari) สามารถเล่นได้โดยไม่มีปัญหาใดๆ ครับ ว่าแล้วลองดูหน้าตาโปรแกรมกันครับ
จะเห็นว่า User Interface น่าใช้งานมากเลยทีเดียว การใช้งานเป็นสไตล์ Drag & Drop ลากวางๆ เสร็จอย่างรวดเร็วเลยครับ แหมเห็นแบบนี้แล้วผมนึกถึงโปรแกรม PlanIt ที่ทาง SB Furniture ใช้อยู่เลยครับ
Dragonfly มีลูกเล่นนิดหน่อยที่สามารถเปลี่ยนมุมมองเป็นสามมิติได้ด้วย แหมมมม ไฮโซจริงๆ
สามารถ Export ไฟล์ได้สาม Format ครับ jpg, dwg, rvt
ส่วนนี่ลองดูไฟล์ jpg ที่ได้จากการ export jpg ครับ
ข้อดีที่ผมสามารถสรุปได้จากโปรแกรมนี้คือ
- มันสามารถรันบนคอมพิวเตอร์ได้แทบทุกเครื่องครับ เป็น Web Application ที่เหมาะมากกับการจัด Showroom หน้างานด้วยความที่ว่า User Interface ใช้งานง่ายมากๆ และหน้าตาโปรแกรมออกมาดูดีเลย
- สามารถ Export ออกมาเป็นไฟล์ dwg, jpg, rvt ได้ครับ เยี่ยมมากๆ เลย จากการทดสอบไฟล์ dwg ที่ได้มีการแบ่ง layer ให้เรียบร้อยเลยครับ และไฟล์ rvt ก็เป็นไฟล์ที่มี Family มาให้ด้วย
- หากเป็น Showroom ใหญ่ๆ ผมว่าเหมาะในแง่ของการเป็น Web Application เพราะสามารถอัพเดทข้อมูลใหม่ๆ ได้จาก Server ทีเดียว ทำให้ประหยัดค่าแจกจ่ายข้อมูลและสามารถเปลี่ยนแปลงข้อมูลให้ตรงกันได้ตลอดเวลา
สรุปว่า ต้องลองเล่นดูครับ แล้วจะรู้ว่า แหมเดี๋ยวนี้เค้าไปกันถึงนี้แล้วเหรอเนี่ย อีกหน่อยเราคงไม่ต้องมาลำบากลำบนเขียนแบบกันแล้วมั้งครับ ใครลองเล่นแล้วอย่าลืมมาบอกกล่าวด้วยนะครับ
วันเสาร์ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2552
Autodesk Freewheel
ที่เราไม่อยากส่งไฟล์ dwg ที่เราทำเสร็จแล้วไปให้ลูกค้า เนื่องจากกลัวว่าเค้าจะเอางานเราไปทำต่อหรือเลิกจ้างเรา
หรือในการทำงานต้องส่งไฟล์งานให้ลูกค้าที่ไม่สามารถอ่านแบบของเรารู้เรื่อง
หรือลูกค้าไม่มีโปรแกรมที่ใช้ในการอ่านไฟล์งาน CAD หรืองาน สามมิติต่างๆ และไม่มีความรู้ทางคอมพิวเตอร์ที่จะลงโปรแกรมสำหรับดูงานสามมิติ
หรือไม่มีเวลาไปเจอลูกค้าเพื่อตรวจแบบ
Autodesk Freewheel website
เป็นทางออกสำหรับปัญหาที่กล่าวมาครับ
Autodesk Freewheel อนุญาตให้เรา upload งาน dwf ของเราทั้งสองและสามมิติขึ้นไปบนเวปเพื่อให้ลูกค้ามาตรวจสอบงาน โดยลูกค้าไม่สามารถเซฟงานของเราไปได้เลย (ดูได้อย่างเดียว) ความสามารถโดยรวมของโปรแกรมก็แปลตามเวปมาตามนี้ครับ...
- ส่งงาน 2D,3D จาก AutoCAD, Inventor, Revit, Design Review ขึ้นบนเวป
- แปะงานลงบนเวปโดยใช้คำสั่ง div, iframe
- แชร์งานลงบนเวปและยังสามารถใช้คำสั่ง pan, zoom, orbit, etc นอกจากนี้ยังสามารถ comment งานร่วมกันได้
- จัดการกับงาน 2D,3D โดยใช้คำสั่ง My Designs, My Sessions
- ควบคุมมุมมองสามมิติโดยใช้ 3D/2D View Navigation Wheel
- สามารถปรับแต่ง Use Interface (UI) ให้เหมาะกับหน้าต่างของเวปเราได้
- สามารถใช้ JavaScript API ในการปรับแต่งกับ Freewheel ได้
- คำสั่ง Projeect Draw ในการช่วยกันทำงานออกแบบ
วันจันทร์ที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2552
Virtual Building Explorer for ArchiCAD 12
สำหรับคนที่ไม่รู้จักมาก่อนนะครับ VBE คือ โปรแกรมสำหรับ Export งานอาคารสามมิติของเราให้ลูกค้าหรือคนอื่นๆได้ชมกันโดยเป็นโลกสามมิติที่สวยงามระดับนึงเลย (ใช้ Global Illumination) และลูกค้าสามารถเดินเล่นรอบบ้านได้ตามใจชอบ แถมยังไม่กินสเปกเครื่อง แล้วก็ไม่ต้องลงโปรแกรมอะไรเพิ่มเติมอีกด้วย!!!
เกริ่นมาซะเยอะ ลองดูภาพประกอบ พร้อมไฟล์ตัวอย่างเลยครับ



สิ่งที่จำเป็นในการใช้งาน Virtual Building Explorer
ArchiCAD12 build2420 or later.
Add-On Virtual Building Explorer.
การ Export ก็ไม่ยากเลยครับ แค่ทำงานจากใน ArchiCAD เสร็จ เราก็ไปที่ File -> Export to Virtual Building Explorer แล้วกด next ไปเรื่อยๆก็เสร็จแล้วครับ ส่งให้ลูกค้าดูได้สบายเลย
DOWNLOAD ไฟล์ตัวอย่างที่นี่
วันอาทิตย์ที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2552
Autodesk 2010 @ Singapore
ส่วนที่อัพเดทรวมๆของ Revit ทั้งหมดคือ
- การเปลี่ยน UI (User Interface) เป็นแบบ Ribbon แบบที่ Microsoft ใช้ในโปรแกรม Office ต่างๆ รวมถึง AutoCAD 2009 (คนบ่นเพียบ)
- มีไฟล์สกุลใหม่ *.adsk โดยทาง Autodesk บอกว่าจะเป็นไฟล์มาตราฐานใหม่ที่ใช้ได้กับทุกโปรแกรมในตระกูล Autodesk (อีกแล้ว) ตอนนี้ที่เห็นคือสามารถเอาเข้ามาจาก Civil3D และ Inventor ได้คิดว่าคงทำอะไรได้อีก แต่ต้องรออีกซักพัก
- คำสั่งการทำ Massing ง่ายกว่าเดิมเยอะ (คิดเอาเองจากการทดลองใช้งาน)
ไปครั้งนี้มีพี่กวีกับแมนไปด้วย ส่วนตัวแล้วไม่รู้สึกตื่นเต้นเท่าไหร่ อาจเป็นเพราะเคยมาแล้ว สิงคโปร์ก็เล็ก เลยรู้สึกเฉยๆมากกว่า คราวนี้ได้ที่พักดีกว่าคราวที่แล้วมาก อยู่ติดที่เทรนเลย สบายไป
ลองมาดูที่โปรแกรมที่อัพเดทดีกว่า ไล่ตามวันเลย
อีกอย่างที่เพิ่มมา น่าสนใจและคิดว่ายังมีโอกาสพัฒนาต่อไปอีกมากคือ ส่วนของ Connection Extension ซึ่งเป็นส่วนเขียนรอยต่อโครงสร้างเหล็ก ที่จากเดิมไม่สามารถทำได้ใน Revit
ในตัว Architecture ส่วนที่เห็นชัดๆ คือการทำ Massing แบบ Freeform ทำได้ง่ายขึ้นเยอะ ไม่ต้องมานั่งเลือก Workplane หรือรูปแบบการขึ้นรูปอีกต่อไปแล้ว และอีกอย่างคือการนำเข้าไฟล์จาก Civil3D และอีกอย่างที่ค่อนข้างชอบคือการที่ตัว Family Type Selector มีรูปของ Family แสดงด้วย ทำให้เลือก Family ง่ายขึ้นเยอะเลย
อีกอย่างที่เพิ่มมาคือการทำ Pattern ลงบน Surface ที่สร้างขึ้น เหมือนเป็นลายของโครงสร้างแบบผ้าใบ ซึ่งตอนนี้ยังไม่แน่ใจว่าสามารถเอาไปทำอะไรได้บ้าง
ตัวนี้ แทบจะไม่เห็นว่ามันมีอะไรเพิ่มขึ้นมา อาจเป็นเพราะทาง Autodesk ที่มาอัพเดทไม่ได้เป็น MEP ด้วยมั้งเค้าเลยไม่รู้จาอัพอารายเหมือนกัน ฮ่าๆ
ที่เห็นคือ เราสามารถเพิ่มตัวแปรต่างๆลงไปในส่วนวิเคราะห์พลังงานได้เองแล้ว จากเดิมเพิ่มไม่ได้ ต้องไปเพิ่มที่โปรแกรมพลังงานเท่านั้น (เช่น Ecotect)
โปรแกรมใช้ตรวจจับ Clash detection, Interference Check ระหว่างโปรแกรม BIM ต่างๆ ใช้ได้ทุกค่าย และยังสามารถ Project Management ได้อีกด้วย (บอกว่าเอาเข้าจาก Excel, Primavera ได้ด้วย) แต่ยังไม่เห็นทาง Autodesk สาธิตให้ดูซักทีเลย ที่คิดว่าดีสุดคือ เราสามารถส่งไฟล์ไปให้เค้าตรวจได้ โดยตั้งวันที่ไฟล์จะไม่สามารถเปิดได้ได้ด้วย (ทำให้เค้าไม่สามารถเอามาใช้ใหม่ได้ ดีจริงๆ)
คิดว่าเป็นอีกโปรแกรมที่มีประโยชน์ แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้
ตัวนี้ดูไปเรื่อยๆ เพราะตัว Setup มี error มากจนไม่สามารถเล่นได้ ทาง Autodesk เลยต้องเปิดให้ดูอย่างเดียวฮ่าๆ
วันเสาร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552
ThaiBIM.net : Building Information Modeling in Thai
เป็นอีกเวปนึงที่ผมทำขึ้นมา ด้วยเหตุผลที่ต้องการจะรวมเอาคนที่ทำงานด้าน CAD -> BIM เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้กันครับ การใช้ BIM จะได้เป็นที่แพร่หลายมากยิ่งขึ้น(มั้ง)
การที่เวปเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาได้ก็เพราะมีหลายคนช่วยแวะเวียนเข้ามาแลกเปลี่ยนความรู้ ต้องขอบคุณเพื่อนๆ มากเลยครับ แล้วผมจะพยายามพัฒนาเวปให้ดียิ่งๆ ขึ้นต่อไปครับ
วันพฤหัสบดีที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552
Welcome MacBook: OSX ขอของขวัญให้ตัวเองซักหนึ่งชิ้นเหอะ !!!
เป็นเพราะว่า
- ไปทุ่มเวลาทำเวปที่เปิดเอง www.thaibim.net ถึงขั้นลงทุนควักเนื้อจ่ายเองเลยทีเดียว
- แอบเปลี่ยนใจใช้แมค แหะๆ
ไปถอยเจ้า MacBook Aluminium 2.0 มาลองเล่น เพราะเบื่อ PC เครื่องเก่าแก่ที่ใช้มาตั้งแต่สมัยเรียนแล้ว
สถานะของ MacBook ตอนนี้

OSX Leopard 10.5.6 + iLife'09 + iWork'09 + SketchUp7 + ArchiCAD12 + Artlantis + VMware Fusion
BootCamp Windows XP + Revit Architecture, Structure, MEP
กะว่าจะลอง ArchiCAD แบบดั้งเดิมซะหน่อย สังเกตว่าอัดเข้าไปหมดเลย ฮ่าๆ
ส่วนข่าวคราวของ BIM ตอนนี้มี beta version ของ Revit 2010 มาให้ใช้แล้ว ไว้จะเอามา Review ตอนที่เค้าอนุญาตอีกทีครับ
วันพฤหัสบดีที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2552
Revit Architecture Introduction VDO Clip
วันพุธที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2552
Revit Architecture + Structure: ครั้งแรกกับการใช้งานเต็มรูปแบบของผม
ตอนนี้ผมได้รับงานมาให้ลองทำ Project ที่ใช้ Revit แบบเต็มที่ครับ งานนี้ผมเลยนำมาลองทุกอย่างที่คิดว่าน่าจะทำได้ใน Revit เลยครับ ทั้งการทำงานแบบร่วมกันในไฟล์เดียวผ่าน Network(WorkSharing), การทำงานร่วมกันของ Revit Architecture + Revit Structure, การถอดแบบ ปริมาตรเหล็ก, การทำแบบขยายต่างๆ
^ Perspective (Architecture view)
ในงานนี้ เอาแบบจากไฟล์ DWG มา Link แล้ว draft ต่อ ซึ่งส่วนตัวทำเฉพาะแบบงานสถาปัตย์ โดยทำร่วมกับวิศวกรอีกคนนึงให้ใส่โครงสร้าง, เหล็ก เพื่อนำไปคำนวนราคาต่อไป ตอน draft รู้สึกว่าทำได้ง่าย+เร็วมากทีเดียว เมื่อเทียบกับ ArchiCAD หรือแม้แต่วาดขึ้นใหม่ก็ยังเร็วอยู่ดี
สะดวกดีเพราะทำทีเดียวได้ทั้ง สามมิติ,แปลน,รูปด้าน,รูปตัดเลย
การทำ Details ก็ง่ายดี เพราะสามารถเอาจากในโครงการมาทำเป็นแบบขยายได้เลย ทำให้งานถูกต้องตามแบบรวม หรือจะเช็คความถูกต้องจาก Section Box แบบสามมิติก็ได้
^แบบขยายห้องน้ำที่ได้จากการ CallOut ในตัวอาคารมาเลย ทำให้เร็วและถูกต้อง
^การดูแบบ Section Box จะช่วยให้ดูรายละเอียดในโครงการเป็นสามมิติได้ง่ายขึ้น
ต่อมาเป็นส่วนของ Structure ที่สามารถนำตอม่อจากในโครงการมาทำแบบขยายได้เลย พร้อมทั้งสเปกขนาดเหล็กตามที่ใส่จริงได้เลย แล้วสามารถนำไปสรุปรายการความยาวเหล็กทั้งหมดได้ด้วย^แบบ Detail ที่ขยายมาจากตัวงานจริง ทำให้ถูกต้องตรงกับหน้างาน